Path of Exile 2: ฝึกฝนแม่มด – เวทมนตร์ตามธาตุและตัวเลือก Ascendancy
Path of Exile 2 มีคลาสร่ายเวทย์สองคลาสให้ผู้เล่น: แม่มดและแม่มด คู่มือนี้เน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถด้านเวทมนตร์ธาตุของแม่มดของคุณ แม่มดอาศัยเวทย์มนตร์ธาตุ ซึ่งต้องการแนวทางเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดการป้องกันและพลังชีวิตโดยธรรมชาติที่ต่ำลง การหมุนเวียนคาถาที่มีประสิทธิภาพและการจัดสรรทักษะเชิงกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเอาชีวิตรอด ความสามารถในการสวมใส่ทั้งไม้เท้าและไม้กายสิทธิ์ให้ความยืดหยุ่นในการทดลองใช้คาถาต่างๆ ก่อนที่จะสร้างขั้นสุดท้าย
การผสมผสานทักษะแม่มด:
การผสมผสานทักษะหลายอย่างพิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพในแต่ละช่วงของเกม
ช่วงต้นเกม: กลยุทธ์ช่วงต้นเกมที่ทรงพลังเกี่ยวข้องกับการรวม กำแพงเปลวไฟ และ Spark กำแพงไฟสร้างบาเรียที่สร้างความเสียหาย ในขณะที่สปาร์คสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเมื่อทะลุผ่าน ทำให้ควบคุมการเข้าใกล้ของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความเสียหายอย่างมาก อีกทางหนึ่ง ไอซ์โนวา ควบคุมฝูงชนเป็นเลิศ ทำให้ศัตรูช้าลงเพื่อให้มีโอกาสสำคัญในการหลบหลีกและโจมตี
<>กลางเกม:
ช่วงนี้จะเห็นการรวมคาถาที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มความเสียหาย การหมุนที่แนะนำเกี่ยวข้องกับการรวมคาถาน้ำแข็งเข้าด้วยกัน (สร้างเอฟเฟกต์เย็นเพื่อชะลอความเร็วและแช่แข็ง) ร่วมกับคาถาไฟและฟ้าผ่าเพื่อสร้างความเสียหายแบบพื้นที่ การทำงานร่วมกันระหว่างองค์ประกอบเหล่านี้สร้างการโจมตีที่รุนแรง<><>
อย่าลืมลงทุนแต้มทักษะในพาสซีฟที่เพิ่มความเสียหายจากเวทย์มนตร์และมานา ซึ่งสำคัญมากสำหรับการต่อสู้ที่ยั่งยืน แม้ว่าการระบุรายละเอียดจะเป็นไปได้ แต่ก็มีต้นทุน ดังนั้นการวางแผนอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ตัวเลือก Ascendancy (องก์ II):
หลังจากเสร็จสิ้นการทดลอง Sekhemas ในองก์ II แล้ว คุณจะเลือกคลาสย่อย Ascendancy ของคุณ มีสองตัวเลือกสำหรับแม่มด:
Stormweaver:
อำนาจวาสนานี้จะขยายเวทย์สายฟ้า ทำให้พวกมันทรงพลังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายช็อตให้กับเวทย์ธาตุอื่นๆ อีกด้วย เพิ่มความเสียหายแบบพื้นที่รับผลกระทบสูงสุด ตัวเลือกนี้จะคงธีมเวทมนตร์ของคลาสแม่มดไว้Chronomancer:
อำนาจวาสนานี้นำเสนอสไตล์การเล่นที่แตกต่าง โดยมุ่งเน้นไปที่คาถาควบคุมเวลา เช่น Time Freeze และ Temporal Rift สิ่งนี้ช่วยให้การต่อสู้ระยะประชิดมีการควบคุมและปลอดภัยยิ่งขึ้น แตกต่างจากการมุ่งเน้นความเสียหายตามธาตุแบบเดิม มันนำเสนอทางเลือกที่ท้าทายกว่าแต่คุ้มค่า