การคืนชีพของ IP แบบคลาสสิกของ Capcom: Okami, Onimusha และ Beyond
Capcom ได้ประกาศความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการฟื้นฟูทรัพย์สินทางปัญญา (IP) แบบคลาสสิก โดยเริ่มต้นด้วยผลตอบแทนที่ทุกคนตั้งตารออย่าง Okami และ Onimusha กลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากคลังเกมที่กว้างขวางของ Capcom เพื่อส่งมอบเกมคุณภาพสูงให้กับผู้เล่น
<>Okami และ Onimusha: รุ่งอรุณใหม่
แถลงข่าววันที่ 13 ธันวาคม ยืนยันการพัฒนารายการใหม่ในแฟรนไชส์ Onimusha
และOkami Onimusha ซึ่งมีฉากอยู่ในเกียวโตในสมัยเอโดะ มีกำหนดออกฉายในปี 2026 ภาคต่อของ Okami ใหม่ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยผู้กำกับและทีมพัฒนาของเกมต้นฉบับจะกลับมา แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายก็ตาม <> Capcom ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นในการเปิดใช้งาน IP ที่ถูกใช้งานน้อยครั้งอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง "ชื่อที่มีประสิทธิภาพสูงและมีคุณภาพสูง" และเพิ่มมูลค่าองค์กรโดยรวม กลยุทธ์นี้จะช่วยเสริมโปรเจ็กต์ที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น Monster Hunter Wilds
และCapcom Fighting Collection 2 ซึ่งทั้งสองมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2568 ควบคู่ไปกับเกมล่าสุดอย่าง
Kunitsu-Gami: Path of the Goddessและ เอ็กโซไพรมอล. <> สิ่งที่แฟนๆ ชื่นชอบและความเป็นไปได้ในอนาคต: "การเลือกตั้งขั้นสูง" "Super Elections" ของ Capcom ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งแฟนๆ โหวตให้กับภาคต่อและรีเมคที่พวกเขาต้องการมากที่สุด นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับโครงการที่มีศักยภาพในอนาคต ผลลัพธ์เน้นให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากใน
วิกฤตไดโน, Darkstalkers
,โอนิมูชา และ ลมหายใจแห่งไฟ
.<> ในขณะที่ Capcom ยังคงรอบคอบเกี่ยวกับแผนการเฉพาะ แต่ "Super Elections" ก็ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้สูงที่จะเปิดตัวแฟรนไชส์ที่งดให้บริการมายาวนานเหล่านี้ในอนาคต ความต้องการ Onimusha และ Okami ที่สูง ซึ่งได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยการรวมไว้ในโครงการริเริ่มการฟื้นฟูในปัจจุบัน ตอกย้ำถึงศักยภาพที่แฟน ๆ ชื่นชอบคนอื่นๆ จะได้รับการปฏิบัติที่คล้ายคลึงกัน การไม่มีการใช้งานเป็นเวลานานสำหรับเกมอย่าง Dino Crisis และ Darkstalkers
(ภาคล่าสุดที่ออกในปี 1997 และ 2003 ตามลำดับ) ทำให้พวกเขาเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการรีมาสเตอร์หรือภาคต่อ แม้แต่Breath of Fire แม้จะออกอากาศซ้ำทางออนไลน์เพียงช่วงสั้นๆ แต่ยังคงความสนใจของแฟนๆ ไว้อย่างมาก